livescoreza.com
Menu

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าโซเดียมในอาหารสำเร็จรูปลดลงทั่วทั้งทวีป?

การปฏิรูป อาหาร บรรจุหีบห่อในออสเตรเลียให้มีโซเดียมน้อยลงอาจช่วยชีวิตคนได้ประมาณ 1,700 คนต่อปี และป้องกันโรคหัวใจ โรคไต และมะเร็งกระเพาะอาหารได้เกือบ 7,000 คนต่อปี ตามผลการวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Hypertension ซึ่งเป็นวารสาร American Heart Association การบริโภคโซเดียมสูงจะเพิ่มความดันโลหิต เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตเรื้อรัง และมะเร็งกระเพาะอาหาร เพื่อลดอุบัติการณ์ของภาวะเหล่านี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ลดปริมาณการบริโภคโซเดียมโดยเฉลี่ยของประชากรลง 30% ภายในปี 2568 โดยจำกัดการบริโภคโซเดียมต่อวันต่อคนไว้ที่ประมาณ 2 กรัม (กรัม) หรือ 2,000 มิลลิกรัม ( มก.), ต่อวัน. แนวทางการบริโภคอาหารของกระทรวงเกษตรสหรัฐสำหรับชาวอเมริกันแนะนำให้ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรงจำกัดโซเดียมให้น้อยกว่า 2,300 มก. ต่อวัน การบริโภคโซเดียมต่อวันในปัจจุบันในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ประมาณ 3,400 มก./วัน ต่อคน โซเดียมส่วนใหญ่ในอาหารของผู้คนมาจากอาหารแปรรูปและอาหารสำเร็จรูป American Heart Association ประมาณการว่า 75% หรือมากกว่าของการบริโภคโซเดียมต่อวันในสหรัฐอเมริกามาจากอาหารแปรรูป/บรรจุภัณฑ์และอาหารในภัตตาคาร การลดโซเดียมในอาหารสำเร็จรูปผ่านโปรแกรมการปรับสูตรผลิตภัณฑ์นั้น WHO ถือว่า "ซื้อได้ดีที่สุด" เพื่อป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคโซเดียมสูง ในปี 2564 องค์การอนามัยโลกได้ออกคำแนะนำเกี่ยวกับระดับโซเดียมในประเภทอาหารที่มีส่วนทำให้ได้รับโซเดียมมากที่สุด เช่น เนื้อแปรรูป ขนมปัง และซอส ตัวอย่างเช่น เกณฑ์มาตรฐานของ WHO สำหรับเนื้ออาหารกลางวันคือโซเดียม 540 มก. ต่อผลิตภัณฑ์ 100 กรัม และขนมปังมีโซเดียม 330 มก. ต่อผลิตภัณฑ์

โพสต์โดย : ppp ppp เมื่อ 8 มี.ค. 2566 15:06:07 น. อ่าน 123 ตอบ 0

facebook