ข่าวกีฬาตะกร้อ การแข่งขันตะกร้อลอดห่วง ในกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 ที่โรงยิมเนเซียม ม.การกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตศรีสะเกษ หลังเกม ราชัณย์ ประสิทธิ์ ผู้ฝึกสอนของทีมตะกร้อลอดห่วงนครราชสีมา เผยว่า ดีใจที่เด็กๆสามารถเล่นและทำผลงานได้ดีอย่างที่เตรียมกันมา ซึ่งก็ถือว่าเป็นชัยชนะที่ควรค่ากับการที่นักกีฬาของเราทุกคนทุ่มเทฝึกหนักกันมาตลอด 3 เดือน และยังถือเป็นการย้ำชัยเอาชนะกทม.อีกหน หลังรอบแรกเอาชนะมาได้ก่อนแล้ว สำหรับรอบชิงฯ ต้องยอบว่า ประสบการณ์และเทคนิคของ นพดล คงแถวทอง รวมถึง จักรพันธ์ จรศรชัย 2 ผู้เล่นทีมชาติในทีม มีส่วนช่วยทีม ประคองทีมและเพื่อนให้กลับมาชนะในช่วงปลายเกมได้ ซึ่งนี่ก็เป็นแชมป์สมัยที่ 2 ของเราในรอบ 11 ปี หลังจากได้ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2554 ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 40 ที่ขอนแก่น
ส่วนประเภททีมหญิง (กติกาสากล) แข่งขัน 30 นาที เป็นการรีแมตช์นัดชิงชนะเลิศ จาก “เจียงฮายเกมส์” โดยอุดรธานี แชมป์เก่า โคจรมาพบกับ เพชรบูรณ์ เหรียญเงินครั้งก่อน ผลการแข่งปรากฏว่า เป็นอุดรธานี ที่ทำคะแนนออกนำตั้งช่วง 10 นาทีแรก 260-180 โดยช่วงเวลาที่เหลือสาวอุดรฯยังเร่งทำคะแนนได้จากทั้งลูกศรีษะ เข่า ข้างเท้าและลูกไขว้ ในชนิดไม่มีแผ่ว ครบ 30 นาที ทำคะแนนชนะไป 750-640 คว้าเหรียญทอง กีฬาแห่งชาติ 2 สมัยติด โดยวรินทร เศษรักษา ทำสูงสุดให้ทีม 200 คะแนนในเกมนี้ ด้านเพชรบูรณ์ ได้เหรียญเงินอีกหน ส่วนทองแดง เป็นของ ราชบุรี และ กทม. หลังจบเกม ไชยวัน แพะขุนทศ หัวหน้าผู้ฝึกสอนตะกร้อลอดห่วงหญิงทีมอุดรธานี เผยว่า รู้สึกดีใจที่ป้องกันแชมป์ได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน แต่ไม่พอใจกับจำนวนคะแนนที่ทำได้ในรอบชิงชนะเลิศ เพราะตามมาตรฐานแล้วต้องได้ 800 คะแนนขึ้นไป แต่ก็เข้าใจได้ว่า นักกีฬาอาจจะมีความตื่นเต้น สำหรับในกีฬาแห่งชาติครั้งนี้ถือว่าเป็นแชมป์แบบไร้พ่ายไม่แพ้ให้กับทีมไหนเลย ส่วนนักกีฬาก็เป็นนักกีฬาชุดเดิมที่ฝึกมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งนักกีฬาตะกร้อลอดห่วงของอุดรธานีจะถูกฝึกมาโดยเฉพาะกับประเภทนี้ ไม่มีการดึงเอานักกีฬาเซปักตะกร้อ มาเล่นเลย ส่วนเป้าหมายต่อไปก็ตั้งใจจะลงแข่งทุกรายการในปีนี้ และส่งนักกีฬาคัดตัวทีมชาติไทยเพื่อไปแข่งชิงแชมป์โลก เดินทางมาถึงการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ทั้งประเภททีมหญิง (กติกาสากล) กับ ประเภททีมชาย (กติกาไทย) โดยประเภททีมชาย (กติกาไทย) แข่งขัน 45 นาที กทม.แชมป์เก่า 5 สมัยติดต่อกัน ผ่านเข้ามาพบกับ นครราชสีมา
เปิดฉากช่วงแรกหนุ่มย่าโม เร่งสปีดเกม และมีความแม่นยำ ออกไปก่อน ทว่าช่วงกลางกลับมาแผ่ว มีช่วงที่คะแนนหลุดตามห่างถึงหลัก 100 อย่างไรก็ตามในช่วง 5 นาทีสุดท้ายเกมสนุกและดุเดือดขึ้นเมื่อโคราช เร่งเครื่อง ทำคะแนนจากลูกศรีษะ ไหล่ ข้างเท้า และลูกพับเพียบได้แบบรัวๆ ขณะที่กทม.สกอร์ไม่ขยับ และช็อตไปดื้อๆ ทำให้ท้ายที่สุดเป็นนครราชสีมาที่ได้ใจ ยิ่งเล่นยิ่งคึกคัก เร่งเครื่องแซงนำในช่วง 4 นาทีสุดท้าย ก่อนชนะไป 1,750-1,670 คะแนน คว้าเหรียญทองไปครอง ด้านเหรียญทองแดง เป็นของ แม่ฮ่องสอน และชลบุรี
อ่านข่าวต่อ : ข่าวกีฬาตะกร้อ
โพสต์โดย : ll11 เมื่อ 12 ก.ค. 2565 11:52:26 น. อ่าน 338 ตอบ 0